เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 สื่อมวลชนสิงคโปร์และต่างประเทศ ได้รายงานข่าว เรื่อง บมจ. กัลฟ์เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (Gulf Energy Development – GULF) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทด้านธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่ของไทย ประกาศจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (Tender Offer) ของ บมจ. อินทัชโฮลดิ้งส์ (Intouch Holdings – INTUCH) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย ที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company) ในกลุ่มธุรกิจการสื่อสาร และโทรคมนาคมเป็นหลัก และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทสิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ (SINGTEL)

โดยทาง บมจ. GULF ได้ยื่นหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แสดงความประสงค์ที่จะลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของ บมจ. INTUCH และได้จัดทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (Tender Offer) ในราคาเสนอซื้อที่หุ้นละ 65 บาท คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 5.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 169 ล้านบาท ข่าวการลงทุนดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นของบริษัท SINGTEL ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นสั้น ๆที่ 2% โดยปิดที่ราคา 2.60 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่หุ้นของ บมจ. INTUCH ในตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นที่ 9% โดยปิดที่ราคา 63.75 บาท และราคายังคงสูงขึ้นเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ปัจจุบัน บมจ. GULF มีสัดส่วนการถือหุ้นใน บมจ. INTUCH เป็นลำดับที่ 2 (รองจากบริษัท SINGTEL) ประมาณ 606 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 18.93% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทั้งนี้ หากสามารถจัดทำ Tender Offer ได้สำเร็จ จะทำให้มีหุ้นใน บมจ. INTUCH เพิ่มเป็นประมาณ 2,599 ล้านหุ้น หรือ 81.07% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และจะมีอำนาจใน บมจ. INTUCH ได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งปัจจุบัน บมจ. INTUCH ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (Advanced Info Service – ADVANC) ที่ 40.45% และ บมจ. ไทยคม (THCOM) ที่ 41.13% บมจ. GULF จึงจะยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อซื้อหุ้นของ บมจ. ADVANC ในราคาหุ้นละ 122.86 บาท แต่ยืนยันว่าไม่ประสงค์ซื้อหุ้นของ บมจ. THCOM

อนึ่ง บริษัท SINGTEL ซึ่งเป็นบริษัทด้านโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ ซึ่งมีกลุ่ม Temasek Holdings ถือหุ้นใหญ่ และถือหุ้นใน บมจ. INTUCH เป็นอันดับ 1 ที่ 21% รวมถึงถือหุ้นใน บมจ. ADVANC เป็นอันดับ 2 ที่ 23.32% และนอกเหนือจากบริษัท SINGTEL ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นทั้งใน บมจ. INTUCH และ บมจ. ADVANC แล้ว ยังปรากฎชื่อของหน่วยงานของสิงคโปร์ อีก 1 แห่ง คือ GIC Private Limited (GIC) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลสิงคโปร์ (Sovereign Wealth Fund – SWF) ซึ่งเป็น หนึ่งในหน่วยงานบริหารกองทุนสำรองระหว่างประเทศที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศเป็นหลัก โดย GIC มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นใน บมจ. INTUCH ในอันดับ 10 ประมาณ 21.62 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.67% และมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นใน บมจ. ADVANC ในอันดับ 6 ประมาณ 40.42 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.36%

สื่อมวลชนหลายสำนัก อาทิ วิเคราะห์ว่า หาก บมจ. GULF สามารถเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. INTUCH และ บมจ. ADVANC ได้สำเร็จ จะมีผลให้ บมจ. GULF มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งในสาขาพลังงานและสาขาโทรคมนาคม เพื่อรองรับการเติบโต/ขยายตัวในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและธุรกิจดิจิทัลในยุคหลังโควิด-19 อย่างครบวงจร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคำเสนอซื้อหุ้นดังกล่าวของ บมจ. GULF จะไม่เป็นที่ยอมรับของบริษัท SINGTEL เนื่องจากบริษัท SINGTEL มีประสบการณ์การลงทุนในไทยมามากกว่า 15 ปี และมูลค่าเงินปันผลจาก บมจ. INTUCH และ บมจ. ADVANC รวมกัน มีสัดส่วนมากถึง 20% ของเงินปันผลรับทั้งหมดของบริษัท SINGTEL และมีสัดส่วนประมาณ 5% – 6% ของผลกำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ และค่าเสื่อมราคา ดังนั้น การลงทุนดังกล่าวได้สร้างกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพต่อบริษัท SINGTEL


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง