บริษัท KrisEnergy เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งเมื่อปี 2551 ประกอบธุรกิจสำรวจ ประเมิน พัฒนา และขุดเจาะ/กลั่น/ผลิต น้ำมันและก๊าซ โดยเน้นพื้นที่ในเอเชีย และมีบริษัท Keppel Corporation (ก่อตั้งโดย บริษัท Temasek Holdings เมื่อปี 2511) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ร้อยละ 40 มูลค่าประมาณ 420 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 บริษัท KrisEnergy ได้ปรับปรุงโครงสร้าง (Restructuring) โดยการออกตราสารหนี้ (bond) มูลค่า 330 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีบริษัท Keppel และธนาคาร DBS KRISENERGY เป็นผู้ลงทุนหลัก ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รับสัมปทานใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย บังกลาเทศ กัมพูชา อินโดนีเซีย และ เวียดนาม รวม 13 แปลง ที่สำคัญคือ

ไทย: 4 แห่ง โดยเน้นแปลงสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย คือ แหล่งเบญจมาศ (Benchamas) แปลงหมายเลข B8/32 คิดเป็นร้อยละ 4.6 หรือ 600 – 690 บาร์เรล/วัน ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่ประมาณ 13,000 – 15,000 บาร์เรล/วัน และ แหล่งวาสนา (Wassana) แปลงหมายเลข G10/48 ซึ่งปัจจุบันไม่มีการผลิต

บังกลาเทศ: 2 แห่ง ได้แก่ แหล่งก๊าซ Bangura แปลงหมายเลข 9 มีการผลิตประมาณ 1,000 บาร์เรล/วัน

กัมพูชา: เมื่อปี 2557 บริษัท KrisEnegy เข้าซื้อกิจการของ บริษัท Chevron Corp คือแหล่งน้ำมันอัปสรา (Aspara) แปลงสัมปทาน A (Block A) กัมพูชา ด้วยมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประเมินว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาร์เรล/วัน และสามารถกักเก็บสำรองได้ 400 -500 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี แหล่งน้ำมันอัปสรา แปลงฯ A ในกัมพูชา ไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่บริษัทฯ คาดไว้คือ ต้นทุนการผลิตสูง และกำลังการผลิตอยู่ที่เพียง 2,500 – 3,000 บาร์เรล/วัน กอปรกับมีน้ำมันที่กักเก็บไว้ในเรือบรรทุกน้ำมัน (tanker) ประมาณ 200,000 – 300,000 บาร์เรล ยังไม่ได้ส่งออก โดยล่าสุด เมื่อเดือนเมษายน 2564 บริษัท KrisEnergy รายงานว่าแผน Restructuring ไม่สำเร็จ เนื่องจากผลผลิตของแหล่งน้ำมันอัปสราไม่บรรลุตามเป้าหมาย และขอยกเลิกกิจการโดยสมัครใจ อนึ่ง บริษัทฯ พึ่งพารายได้จากการผลิตของแหล่งน้ำมันอัปสราเพื่อชำระหนี้มูลค่า 476.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 631.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์)


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง