ตามที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศการกลับเข้าสู่การเปิดระยะที่ 2 (เฝ้าระวังอย่างยิ่ง) หรือ Phase 2 (Heightened Alert) – P2 (HA) ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน 2564 โดยให้ทุกคนทำงานที่บ้าน (work from home as a default) ไม่ออกจากที่พักโดยไม่จำเป็น จำกัดจำนวนการรวมกลุ่มในที่สาธารณะไม่เกิน 2 คน และห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านอาหาร รวมทั้งการปิดศูนย์กีฬาและศูนย์ฟิตเนสในอาคาร (ยกเว้นโยคะ) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ซึ่งติดต่อได้ง่ายและพบอาการติดเชื้อที่รุนแรงขึ้นนั้น เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 นาย Lawrence Wong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ ประกาศมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและเยียวยาประชาชนเพิ่มเติม เป็นเงินจำนวน 800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

การช่วยเหลือภาคธุรกิจ

รัฐบาลสิงคโปร์จะเพิ่มการสนับสนุนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้โครงการ Job Support Scheme (JSS) โดยสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างพนักงาน 4,600 ดอลลาร์สิงคโปร์แรก ร้อยละ 10 – 50 ตามแต่ผลกระทบ ซึ่งรวมถึงธุรกิจค้าปลีก กิจการ personal cares พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ แหล่งประวัติศาสตร์ โรงภาพยนตร์ สนามเด็กเล่นในอาคาร และศูนย์สันทนาการครอบครัวต่าง ๆ รวมทั้งให้เงินอุดหนุนแก่ศูนย์กีฬาและฟิตเนสที่ต้องหยุดกิจการชั่วคราว ตามโครงการ Sports Resilience Package (SRP) ทั้งนี้รัฐบาลสิงคโปร์จะจ่ายเงินช่วยเหลือของช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2564 ภายในเดือนกันยายน 2564

รัฐบาลสิงคโปร์งดเว้นการเก็บค่าเช่าสถานที่แก่ร้านอาหารและเครื่องดื่มในศูนย์อาหาร (hawker centres)ในสถานที่ของรัฐ และผ่อนผันการชำระค่าเช่าสถานประกอบการสำหรับธุรกิจ SMEs และองค์กรไม่แสวงผลกำไร (NPOs) ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับผู้เช่าสถานที่ในพื้นที่ของภาคเอกชน แต่เข้าข่ายตามโครงการ Rental Support Scheme นั้น หน่วยงาน Inland Revenue Authority of Singapore (IRAS) จะพิจารณาช่วยเหลือค่าเช่า 0.5 เดือน เป็นเงินสด ส่วน SMEs และ NPOs ที่ทำการบนสถานที่ของตนเองจะได้รับเงินช่วยเหลือเทียบเท่ากับเงินค่าเช่า 0.5 เดือนเช่นกัน 

กระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมสิงคโปร์ (MSE) จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดโต๊ะอาหารและเครื่องล้างจานแก่ร้านอาหารใน hawker centres ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NEA) ร้อยละ 100 กระทรวงชุมชน วัฒนธรรม และเยาวชนสิงคโปร์ (MCCY) ประกาศขยายเวลาการสนับสนุนกลุ่มวิชาชีพศิลปะ ตามงบประมาณโครงการ Arts and Culture Resilience Package

การเยียวยาประชาชน

รัฐบาลสิงคโปร์จะประกาศแผน COVID-19 Recovery Grant (Temporary) หรือ CRG-T เพื่อเยียวยาประชาชนที่มีหนี้สินแบบ involuntary NPL และผู้สูญเสียรายได้มากกว่าร้อยละ 50 ต่อเดือน จากมาตรการ P2 (HA) โดยบุคคลที่ไม่ได้รับค่าจ้างโดยไม่สมัครใจจะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 700 ดอลลาร์สิงคโปร์ และบุคคลที่ศูนย์เสียรายได้จากมาตรการดังกล่าวจะได้รับเงินเยียวยาไม่เกิน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ด้วย

กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์จะขยายเวลาการพักชำระหนี้และงดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาแก่นักศึกษาที่จบใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งเงินกู้เพื่อการศึกษาภายในและต่างประเทศในระดับมหาวิทยาลัยและโพลีเทคนิค กระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ให้เงินเยียวยาผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างส่วนบุคคลและสาธารณะ (Driver Relief Fund) ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2564 เป็นเงิน 450 – 750 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจาก P2 (HA) นอกจากนี้ Changi Airport Group จะยกเว้นเงินค่าเช่าสถานที่แก่ร้านค้าใน
ท่าอากาศยานชางงีทั้งหมดที่ต้องปิดบริการระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน 2564 ด้วย

อนึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ไม่มีแผนที่จะนำเงินทุนสำรอง (Past Reserves) มาใช้ในมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาดังกล่าว แต่จะรวมอยู่ในเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล และมาตรการบางส่วนเป็นไปตามพระราชบัญญัติ Significant Infrastructure Government Loan Act (SINGA)


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง