เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 กระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ได้เผยแพร่ข่าวสารนิเทศ เรื่อง Joint Statement on the Settlement of Compensation Between the Government of the Republic of Singapore and the Government of Malaysia for the Kuala Lumpur – Singapore High Speed Rail (HSR) Project แจ้งว่ารัฐบาลสิงคโปร์และรัฐบาลมาเลเซียได้เห็นพ้องเรื่องการชำระค่าชดเชยโครงการ HSR เส้นทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ – สิงคโปร์ที่ยุติลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยฝ่ายมาเลเซียจะชำระค่าชดเชยเป็นเงิน 102,815,576 ดอลลาร์สิงคโปร์ (หรือ 320,270,519.24 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 2,390 ล้านบาท)ให้รัฐบาลสิงคโปร์เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ HSR ของฝ่ายสิงคโปร์ซึ่งรวมถึงช่วงที่โครงการฯ ถูกขยายระยะเวลาการระงับโครงการฯ

ข่าวสารนิเทศระบุด้วยว่าสิงคโปร์และมาเลเซียบรรลุข้อตกลงการชำระค่าชดเชยฯ นี้ โดยได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องจากรัฐบาลมาเลเซียแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ครอบคลุมการชำระค่าชดเชยสุทธิ (final settlement) ตามพันธกรณีที่เกิดจากการยุติความตกลงทวิภาคีโครงการ HSR ระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองประเทศจะยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดี และส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศชาติ และประชาชนของทั้งสองประเทศ

ในวันเดียวกัน นาย Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ได้ลงข้อความใน Facebook Page ของตนเอง ยินดีที่สิงคโปร์และมาเลเซียสามารถยุติโครงการได้อย่างสมานฉันท์ (amicably) โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน โดยเห็นว่า สองฝ่ายยังคงมีโอกาสในการร่วมมือกันในหลายสาขา อาทิ ความร่วมมือที่สืบเนื่องจากการเยือนมาเลเซียของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ (24 – 25 มีนาคม 2564) ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการเดินทางทางอากาศและการสัญจรระหว่าง สิงคโปร์ – มาเลเซีย ผ่านเส้นทาง Causeway

ในการตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่สิงคโปร์ระบุค่าชดเชยโครงการ HSR ก่อนหน้านี้ว่ามีมูลค่าถึง 270 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์นั้น โฆษกกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์กล่าวว่า มูลค่าที่ประเมินไว้เบื้องต้นดังกล่าวได้คำนวณโดยรวมค่าใช้จ่ายในการซื้อ/เวนคืนที่ดิน (land acquisition costs) ซึ่งในภายหลังรัฐบาลสิงคโปร์พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเรียกค่าชดเชยดังกล่าวจากฝ่ายมาเลเซีย เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์ยังคงสามารถนำที่ดินในโครงการ HSR (ซึ่งรวมถึงที่ดินสนามกอล์ฟ Raffles Country Club) ไปใช้พัฒนาโครงการศูนย์ทดสอบรถไฟ Integrated Train Testing Centre


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง