สถานการณ์การท่องเที่ยวในสิงคโปร์ช่วงปลายปี 2565และการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2566 ที่อ่าวมารีนา

สวัสดีปีใหม่ท่านผู้ใช้งานเว็บไซต์และแฟนบทความของศูนย์ BIC สิงคโปร์ทุกท่าน ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ในสิงคโปร์คึกคักอย่างมาก เทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับการประดับไฟอย่างสวยงามบนถนนออร์ชาร์ดที่เทียบเท่าช่วงก่อนโควิด-19 สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติให้หลั่งไหลมาในช่วงวันหยุดยาว และสำหรับวันที่ 31 ธันวาคมที่เป็นวันสุดท้ายของปี 2565 สิงคโปร์ได้จัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการกลับมาอีกครั้งของงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่อ่าวมารีนา (Marina Bay) สำหรับในช่วงปีใหม่นี้ ศูนย์ BIC ขอรายงานข้อมูลสถิติจำนวนนักท่องเที่ยว และความคึกคักของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวของสิงคโปร์ในช่วงปลายปี 2565 มาอัพเดทให้ทราบกัน

พัฒนาการสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวและราคาโรงแรมของสิงคโปร์ช่วงสิ้นปี 2565

จากสถิติในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 สิงคโปร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตลอดปี 2565 มากถึง 5.4 ล้านคนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) ได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 4 – 6 ล้านคน อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในสิงคโปร์มีจำนวนลดลงเล็กน้อย จาก 816,758 คน ในเดือนตุลาคม เป็น 816,254 คนในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน โดยนักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซียยังคงครองอันดับ 1 (สูงสุดต่อเนื่อง 8 เดือน) ด้วยจำนวน 144,444 คน เมื่อเดือนพฤศจิกายน (เพิ่มจาก 133,408 คนในเดือนตุลาคม) รองลงมาคือนักท่องเที่ยวจากอินเดีย มาเลเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งมีจำนวนลดลงจากเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 หรือในช่วงก่อนโควิด-19 สิงคโปร์ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากถึง 1.5 ล้านคน ดังนั้น สถิตินักท่องเที่ยวปี 2565 เฉลี่ยในแต่ละเดือนจึงยังคงน้อยกว่าในช่วงก่อนโควิด-19 ประมาณ 1 เท่าตัว

สำหรับค่าโรงแรมที่พัก เมื่อเดือนกันยายน 2565 ค่าห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมในสิงคโปร์ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 14 ปี คือ 283.47 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน (ประมาณ 7,100 บาท) หรือสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วกว่าร้อย 60% แต่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 276.53 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน หากพิจารณาตามประเภทของโรงแรม ราคาค่าห้องของโรงแรมระดับหรูหรา (luxury) เฉลี่ยอยู่ที่ 554.81 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน (ประมาณ 14,000 บาท) โรงแรมระดับกลาง (mid-tier) 220.97 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน (ประมาณ 5,530 บาท) และโรงแรมระดับประหยัด (economy) 141.90 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน (ประมาณ 3,550 บาท) ดังนั้น ค่าห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมระดับบน (upscale) ในสิงคโปร์จึงอยู่ที่ 338.83 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคืน (ประมาณ 8,500 บาท)

อย่างไรก็ตาม รายได้โดยรวมของโรงแรมทั่วสิงคโปร์ลดลง จาก 412.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนตุลาคม เป็น 391.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน หรือลดลงประมาณ 5% แต่นักวิเคราะห์ตลาดด้านการโรงแรมเห็นว่า การลดลงของนักท่องเที่ยวในเดือนพฤศจิกายน 2565 ไม่ได้น่าเป็นห่วง เพราะเมื่อเดือนตุลาคม สิงคโปร์มีการจัดงานใหญ่หลายงาน ทั้งการแข่งรถยนต์ Formula 1 และการจัดงานประชุมและสัมมนานานาชาติต่าง ๆ รวมถึงงานมหกรรม Great Singapore Sale ส่วนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ดีเท่าในช่วงก่อนโควิด-19 นั้น นักวิเคราะห์มองว่า เป็นผลจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังผันผวน และด้วยขีดจำกัดของการให้บริการของเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทั้งในแง่ของจำนวนพนักงานบริการและจำนวนที่นั่ง จึงส่งผลให้เริ่มเห็นการเติบโตที่ช้าลง ทั้งนี้ การท่องเที่ยวของสิงคโปร์ในเดือนธันวาคมจำนวนรายได้ของโรงแรมทั่วสิงคโปร์จะสูงขึ้นเนื่องจากเทศกาลวันหยุดช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่

สิงคโปร์ฉลองวันขึ้นปีใหม่ 2566 อย่างคึกคัก

งานเคานต์ดาวน์ ณ อ่าวมารีนา หรือ Marina Bay Countdown 2023 กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยงานแสดงดนตรีประกอบโชว์ความยาวกว่า 80 นาที พร้อมการจุดพลุเฉลิมฉลองปีใหม่ต่อเนื่องทีมีความยาวถึง 7 นาที ถือเป็นงานเคานต์ดาวน์แรกหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2563 ดังนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงชาวสิงคโปร์จึงรอคอยที่จะสัมผัสกับบรรยากาศของงานสังสรรค์ต่าง ๆ ในช่วงปีใหม่ มากกว่าที่จะกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังหดตัว ภาวะเงินเฟ้อ หรือการขึ้นภาษีสินค้าและบริการ (GST) เมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา

แหล่งที่มา: Urban Redevelopment Authority
(https://www.marinabaycountdown.gov.sg/news/press-releases/)

สำหรับธุรกิจร้านอาหารในเขตแหล่งท่องเที่ยว อาทิ บริเวณรอบอ่าวมารีนามีความคึกคักเป็นพิเศษ และถูกจองจนเต็มทุกร้าน โดยเฉพาะร้านที่สามารถนั่งชมวิวของอ่าวและพลุปีใหม่ โดยบริษัท The 1-Group เจ้าของร้านอาหาร Monti ที่อยู่ด้านหน้าอ่าวมารีนา เผยว่า การจองโต๊ะอาหารสำหรับคืนวันส่งท้ายปีเก่ามีความคึกคักตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา เช่นเดียวกันกับร้านอาหารที่อยู่ชั้นบนสุด หรือ SkyPark ของตึก Marina Bay Sands (MBS) เช่น ร้าน Spago ร้าน Lavo และร้าน Ce La Vi ก็ถูกจองจนเต็มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเช่นกัน โดยลูกค้ายอมจ่ายค่าอาหารมื้อค่ำเมนูส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยราคา 298 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคน (ประมาณ 7,500 บาท) และค่าตั๋วสำหรับขึ้นลิฟต์ไปยังบาร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม MBS (SkyBar) ราคา 48 และ 98 ดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงเวลา 18.00 น. และ 22.00 น. ตามลำดับ ในส่วนของร้านอาหารด้านฝั่งตรงข้ามอ่าว เช่น ร้าน Caffe Fernet ก็ถูกจองเต็มแล้ว โดยเสนอราคาสำหรับโซนที่นั่งรับลมชมวิวนอกร้านสูงถึง 400 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคน (ประมาณ 10,000 บาท) โดยผู้จัดการของร้านให้ความเห็นว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวนั้นกำลังฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดีมาก ถึงแม้จะกังวลในเรื่องการจ้างแรงงานและเงินเฟ้ออยู่บ้าง แต่ก็เตรียมรับมือกับสิ่งใหม่ ๆ สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม: แนวโน้มในช่วงต่อไปและการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน

จีนครองตลาดนักท่องเที่ยวสูงที่สุดของสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2560-2562 จากข้อมูลของ STB ปี 2562 สิงคโปร์มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากถึง 3.627 ล้านคน และมีรายรับจากนักท่องเที่ยวจากชาวจีนมากที่สุดถึง 900 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์1 เช่นเดียวกับไทย สถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2562 มีมากถึง 11 ล้านคน หรือเฉลี่ยเกือบ 1 ล้านคนต่อเดือน ครองสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของตลาดต่างชาติที่มาเที่ยวไทยเกือบ 40 ล้านคนในปีนั้น2

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศข่าวดีเรื่องการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เว็บไซต์ Trip.com รายงานว่า สถิติการเข้าค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนพุ่งสูงขึ้นทันทีในเพียงครึ่งชั่วโมงหลังการประกาศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนปลายเดือนมกราคม 2566 สำหรับ 10 จุดหมายท่องเที่ยวต่างประเทศที่ชาวจีนค้นหามากที่สุดนั้น ได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง3

สำหรับแนวโน้มปี 2566 นี้ นักวิเคราะห์จากบริษัท Cushman & Wakefield คาดว่า การผ่อนคลายมาตรการการท่องเที่ยวของจีนอาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสิงคโปร์รวมเพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านคนในปี 2565 เป็น 12 ล้านคน โดยนักวิเคราะห์ด้านการโรงแรมจากบริษัท STR คาดว่า ช่วงเวลา booking window ของนักท่องเที่ยวจะยาวขึ้นในปีหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ศูนย์ BIC จะนำเสนอความเคลื่อนไหวสถานการณ์การท่องเที่ยวของสิงคโปร์หลังจากจีนเปิดประเทศให้ท่านผู้อ่านต่อไป

สวัสดีปีใหม่ค่ะ


1 https://www.stb.gov.sg/content/dam/stb/documents/statistics-marketing-insights/Quarterly-Tourism-Performance-Report/STB%20Q4%202019%20FA%20v7.pdf

2 https://www.bbc.com/thai/articles/c88plp3k5k5o

3 https://www.cnbc.com/2022/12/27/here-are-the-countries-chinese-tourists-want-to-visit-the-most.html


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง