รายงานสถานการณ์ด้านแรงงานล่าสุดของสิงคโปร์ (ไตรมาสที่ 3/2564) และมาตรการใหม่ในปี 2565
สถานการณ์ด้านแรงงานของสิงคโปร์อยู่ในช่วงฟื้นตัวเช่นเดียวกับเศรษฐกิจสิงคโปร์ และน่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 แต่การฟื้นตัวอาจไม่สมดุลกันในทุกภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามสิงคโปร์ยังคงเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติจากการกระชับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
สถานการณ์ด้านแรงงานสิงคโปร์ (ไตรมาสที่ 3/2564 สถานะ ณ เดือน ธันวาคม 2564)
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ได้เผยแพร่เอกสารภาพรวมตลาดแรงงานสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3/2564 ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2564 สถิติการจ้างงานทั้งหมด (ไม่รวมพนักงานทำความสะอาดบ้าน/Domestic Workers) ลดลง 2,400 ราย ในไตรมาสที่ 3/2564 ซึ่งถือว่าปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2564 ที่ลดลงถึง 16,300 ราย การจ้างงานคนชาติสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอย่างมากจำนวน 19,100 ราย โดยเฉพาะด้านข้อมูล การสื่อสาร และบริการทางการเงิน ขณะที่การจ้างงานชาวต่างชาติลดลง 21,500 ราย ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 2/2564 ซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญ
อัตราการว่างงานลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 อัตราการว่างงานโดยรวมลดลงร้อยละ 2.6 โดยในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2564 อัตราการว่างงานเฉพาะคนชาติและ PR ของสิงคโปร์อยู่ที่ร้อยละ 3.5 แต่อัตราการว่างงานระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.2 ในเดือนกันยายน 2564 จากร้อยละ 0.9 ในเดือนมิถุนายน 2564
อัตราการเลิกจ้างลดลงในไตรมาสที่ 3/2564 เหลือเพียง 1,900 อัตรา (หรือเลิกจ้าง 1.1 คน : พนักงาน 1,000 คน) จาก 2,340 คน (หรือ 1.3 คน : พนักงาน 1,000 คน) ในไตรมาสก่อนหน้า อัตราการกลับเข้ามาทำงานใหม่ภายในระยะเวลา 6 เดือนของผู้ถูกเลิกจ้างปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสนี้ จากร้อยละ 64 เป็นร้อยละ 66 รวมทั้งพนักงานที่ถูกลดจำนวนวันทำงานหรือถูกเลิกจ้างชั่วคราวมีจำนวนลดลงในไตรมาสที่ 3/2564 จาก 4,060 คน เทียบกับไตรมาสที่ 2 /2564 ที่ 5,580 คน แต่ยังคงสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 โดยเฉพาะในด้านการขนส่งทางอากาศและบริการสนับสนุนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ เริ่มเพิ่มขีดความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ
ตำแหน่งงานว่างในตลาดงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 98,700 อัตรา ในเดือนกันยายน 2564 เพิ่มขึ้นจาก 92,100 อัตรา ในเดือนมิถุนายน 2564 ภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตและต้องการแรงงานอย่างต่อเนื่อง คือ บริการทางการเงิน ข้อมูล/การสื่อสาร บริการด้านสุขภาพและสังคม และสายอาชีพ เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ เว็บและมัลติมีเดีย นักวิเคราะห์ระบบ และพยาบาล ทั้งนี้ ถึงแม้การจ้างงานคนชาติและ PR ของสิงคโปร์จะสูงขึ้น แต่ข้อจำกัดด้านการจ้างแรงงานต่างชาติ ทำให้การจ้างงานในสิงคโปร์โดยรวมลดลงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 – ปัจจุบัน รวมจำนวน 173,100 ราย ภาคส่วนที่ได้รับใบอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติลดลงอย่างยิ่ง ได้แก่ ภาคการผลิต การก่อสร้าง บริการอาหาร/เครื่องดื่ม ถือเป็นร้อยละ 38 ของตำแหน่งงานว่างทั้งหมด จำนวนตำแหน่งงานว่างและอัตราส่วนของตำแหน่งงานว่างต่อผู้ว่างงาน คาดว่าจะยังคงสูงอยู่จนกว่าจะยกเลิกข้อจำกัดด้านการเปิดพรมแดน
การสนับสนุนด้านการจ้างงานของรัฐบาลสิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์และพันธมิตรไตรภาคีด้านแรงงาน (tripartite partners) ได้สนับสนุนนายจ้างให้บริหารการจ้างงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาแรงงานท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยจัดสรรงบประมาณในโครงการ SGUnited Jobs and Skills Package รวมถึงโครงการสนับสนุนภาคธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อื่นๆ อาทิ Job Support Schemes (JSS) สรุปรายละเอียด ดังนี้
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ถึงพฤษภาคม 2564 โครงการข้อริเริ่ม Jobs Growth Incentive ได้สนับสนุนการจ้างงานคนชาติและ PR สิงคโปร์เกือบ 400,000 คน จากธุรกิจ 58,000 แห่ง และขยายเวลาจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 เพื่อสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น รวมถึงพนักงานที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้ทุพพลภาพ และผู้เคยต้องโทษในคดีต่าง ๆ
นายจ้างสามารถเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนอาชีพ (Career Conversion Programmes) เพื่อจ้างและฝึกอบรมพนักงานระดับกลางสำหรับอาชีพใหม่ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมและเงินเดือนสูงสุดถึงร้อยละ 90
ผู้สมัครงานสามารถเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรม เช่น SGUnited Traineeships และ Mid-Career Pathways Programmes เพื่อพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม/สายงาน เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ๆ ผู้สมัครงานที่ต้องการบริการจับคู่อาชีพที่เหมาะสมสามารถติดต่อสถาบัน WSG และ NTUC’s Employment and Employability Institute ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SGUnited Jobs & Skills Centers จำนวน 24 แห่งทั่วสิงคโปร์ สำหรับผู้ที่ว่างงานมายาวนาน หรือผู้ทุพพลภาพสามารถติดต่อ บริษัท Adecco (ในสังกัดของ SGUnited เช่นกัน) เพื่อเพิ่มพูนโอกาสในการสมัครงาน
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อสังเกต
รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับอัตราการฉีดวัคซีน เพื่อรองรับการเปิดประเทศ สังคม และเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย โดยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป จะเพิ่มเงื่อนไขการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นเงื่อนไขสำหรับการอนุมัติใบอนุญาตต่างๆ ทั้งบัตรระยะยาว (LTVP) ใบอนุญาตทำงาน (Work Passes) และ PR รวมทั้งการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 คณะทำงาน Multi-Ministry Taskforce สิงคโปร์ ได้ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2565 รัฐบาลสิงคโปร์จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน (Work-Related Events -WREs) เช่น การฝึกอบรมพนักงาน การประชุมสามัญประจำปี จากเดิม 50 คน เพิ่มเป็นไม่เกิน 1,000 คน แต่หน่วยงานผู้จัดกิจกรรมจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น การสวมหน้ากาก การไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม การรักษาระยะห่าง และการฉีดวัคซีนฯ เป็นต้น ในขณะที่การจัดประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และนิทรรศการขนาดใหญ่ (MICE) ของสิงคโปร์จะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
ข้อมูลอ้างอิง
- https://www.mom.gov.sg/newsroom/press-releases/2022/0101-businesses-may-proceed-with-larger-work-related-events-after-notifying-authorities
- https://www.mom.gov.sg/newsroom/press-releases/2021/1215-labour-market-report-third-quarter-2021
- https://www.mom.gov.sg/newsroom/press-releases/2021/1226-vaccination-condition-for-long-term-passes-work-passes-and-permanent-residence