สิงคโปร์เร่งผลักดันธุรกิจเรือสำราญ

การเจาะตลาดธุรกิจเรือสำราญ รับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก

อุตสาหกรรมเรือสำราญของสิงคโปร์กำลังฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในปี 2565 ผู้โดยสารจำนวน 1.5 ล้านคน ได้เดินทางมาใช้งานท่าเรือของสิงคโปร์ แต่จำนวนดังกล่าวคิดเป็นประมาณสองในสามของตัวเลขในปี 2562 ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารเรือสำราญประมาณ 1.8 ล้านคน ซึ่งอุตสาหกรรมนี้คิดเป็นมูลค่า 630 ล้านเหรียญสิงคโปร์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ โดย 350 ล้านเหรียญสิงคโปร์มาจากการซ่อมแซมเรือสำราญ เติมน้ำมัน และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือ ในปี 2565 Singapore Tourism Board (STB) คาดว่า อุตสาหกรรมเรือสำราญของสิงคโปร์จะปรับตัวกลับสู่ระดับก่อนการเกิดโรคระบาดได้ในปี 2566-2567

ข้อมูลจาก Statista คาดว่า รายรับจากเรือสำราญของสิงคโปร์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 288.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ จำนวนผู้เดินทางจะสูงถึง 436,000 คน ภายในปี 2570

ตั้งแต่ปี 2568 สิงคโปร์จะเป็นท่าเรือต้นทางให้กับเรือสำราญดิสนีย์และมาร์เวล โดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือห้าปี ระหว่าง STB และ Disney Cruise Line หลังจากเจรจามาหลายปี และเริ่มเข้าสู่ระดับสูงในปี 2565 นั้น STB กล่าวว่า การเป็นหุ้นส่วนกับ Disney Cruise Line จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเรือสำราญและรายรับจากการท่องเที่ยวและ GDP ของประเทศ และคาดว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารเรือสำราญทั้งในและต่างประเทศหลายล้านคนที่จะมาใช้บริการในช่วงระยะเวลาห้าปี ซึ่งรวมไปถึงผู้โดยสารเรือสำราญที่เดินทางมายังสิงคโปร์โดยเครื่องบิน การตัดสินใจของดิสนีย์ให้สิงคโปร์เป็นท่าเรือต้นทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยเรือของภูมิภาคฯ นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังสามารถทำหน้าที่เป็นประตูสู่ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อีกด้วย

แหล่งที่มา: Disney Cruise Line (https://disneycruise.disney.go.com)

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

ข้อมูลจาก Cruise Lines International Association ระบุว่า ในปี 2562 ประเทศไทยมีเรือสำราญเข้าเทียบท่าจำนวน 550 ลำ ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับเรือสำราญสูงถึง 600,000 คนต่อปี การสร้างความร่วมมือกับสายการเดินเรือสำราญในการพัฒนาท่าเรือสำราญจะทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากเรือสำราญมักจะเป็นนักท่องเที่ยวมีคุณภาพและมีการใช้จ่ายที่สูง จึงจะเป็นการช่วยส่งเสริมรายได้จากท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี


สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง