เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 สื่อมวลชนสิงคโปร์และต่างประเทศได้รายงานข่าว เรื่อง บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) เตรียมนำธุรกิจเบียร์ยื่นขออนุญาตขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนทั่วไป (Initial Public Offering – IPO)ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) เป็นครั้งแรก โดยจะดำเนินการยื่นขออนุญาตภายในสัปดาห์หน้าและคาดว่าจะสามารถระดมทุนจากการขายหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ อีกทั้งยังได้คาดการณ์ว่าหลังจากเข้าระดมทุนแล้ว ธุรกิจเบียร์ของ ThaiBev น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 300,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ (หุ้น) ครั้งใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์นับตั้งแต่ปี 2554 ที่กองทุนฮัทชิสันพอร์ต โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ระดมทุนได้ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 165,000 ล้านบาท และการเสนอขายหุ้น IPO ของ ThaiBev จะช่วยเพิ่มมูลค่าการขายในตลาดหลักทรัพย์และฟื้นฟู SGX ที่ตกต่ำเหลือเพียง 915 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 27,400 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว หรือต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี (นับตั้งแต่ปี 2558)

ทั้งนี้ ThaiBev ได้ออกประกาศชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าวว่า ว่าบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินเท่านั้นและยังต้องรอการตัดสินใจขั้นสุดท้าย โดยบริษัทฯ ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการนำธุรกิจเบียร์แยกขาย IPO ใน SGX และหากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มความระมัดระวังในการรับข้อมูลข่าวสารและปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจทำธุรกรรมเพิ่มเติมใด ๆ กับหลักทรัพย์ของ ThaiBev เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเอง

อนึ่งสื่อมวลชนสิงคโปร์และต่างประเทศได้เคยรายงานเรื่องความเป็นไปได้ที่ ThaiBev จะนำธุรกิจเบียร์แยกขาย IPO ในตลาดหุ้น SGX แล้วหลายครั้ง ได้แก่ (1) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 (2) วันที่ 18 ธันวาคม 2562 (3) วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 (4) วันที่ 19 มิถุนายน 2563 และ (5) วันที่ 19 มกราคม 2564 แต่ ThaiBev ก็ออกประกาศชี้แจงว่ายังอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น ซึ่งกระแสข่าวลือทุกครั้งได้ทำให้ราคาหุ้นของ ThaiBev ใน SGXปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสั้น ๆ ทุกครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ราคาหุ้นของ ThaiBev สูงขึ้นจาก 0.8 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 0.84 ดอลลาร์สิงคโปร์ แต่ภายหลังจากที่ ThaiBev ออกประกาศชี้แจง ราคาหุ้นก็ลดลงเหลือ 0.825 ดอลลาร์สิงคโปร์

กลุ่ม ThaiBev ยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไทยและเบียร์นานาชาติ ได้แก่ (1) เบียร์ช้าง (2) เบียร์อาชา (3) เบียร์เฟเดอร์บรอย (4) เบียร์แทปเปอร์ (5) แบล็คดราก้อน (6) ฮันทส์แมน และ (7) เบียร์ไซง่อน ซึ่งเป็นเบียร์ลาเกอร์จำหน่ายในเวียดนาม ภายใต้การดำเนินการของ บมจ. เบียร์ไทย (1991) จำกัด (มหาชน), บจก. เบียร์ทิพย์บริวเวอรี่ (1991) และบริษัทคอสมอสบริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด จากโรงงานที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตสูง

สัดส่วนรายได้ของ ThaiBev ในปี 2563 มาจากธุรกิจ (1) สุรา 46% (2) เบียร์ 42% และ (3) อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 12% โดยมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในไทยมากที่สุด 75.6% นอกจากนี้คือรายได้จากตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะจากเวียดนาม

สัดส่วนการลงทุนของ ThaiBev ในสิงคโปร์ ได้แก่ บริษัท Fraser & Neave Ltd. (F&N) ที่ 28% โดยมีผลิตภัณฑ์ยอดนิยม คือ น้ำอัดลม 100 Plus และผลิตภัณฑ์นมแมกโนเลีย รวมถึงโรงแรม InterContinental (Middle Rd.)


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง