
การขยายตัวของตลาดสินค้าและบริการสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์: แนวโน้มและโอกาสธุรกิจ
อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2566 มีใบอนุญาตเลี้ยงสุนัข 114,000 ใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2562 ทำให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เช่น อาหารสัตว์พรีเมียม เสื้อผ้าแฟชั่น การดูแลสุขภาพ และบริการสปา นอกจากนี้ ตลาดงานปาร์ตี้วันเกิดและงานศพสัตว์เลี้ยงก็ขยายตัว เจ้าของมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกครอบครัว (Humanization) และยินดีลงทุนในคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงแนวโน้มดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวที่ไม่มีบุตรหลาน วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจนี้เติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้น
มหกรรมสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ เช่น SG Pet Festival ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อปี 2567 มีผู้เข้าร่วมกว่า 30,000 คน และกำลังจะจัดแสดงในช่วงเดือนสิงหาคม 2568 สะท้อนถึงกระแสการเลี้ยงสัตว์ที่ได้รับความนิยมในประเทศ คาดว่ามูลค่าตลาดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์จะสูงถึง 110 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2568
ตลาดสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์
ในปี 2567 ร้อยละ 32 ของประชากรสิงคโปร์มีสัตว์เลี้ยง แม้ว่าสิงคโปร์จะมีอัตราการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ตลาดการดูแลสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นตลาดคุณภาพ เนื่องจากค่านิยมที่เจ้าของมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกครอบครัว (Humanization) และกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของรัฐบาลสิงคโปร์ยังเป็นการคัดสรรผู้มีสัตว์เลี้ยงว่ามีความตั้งใจและมีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะเลี้ยงสัตว์จริง
สำหรับสุนัข สิงคโปร์ได้กำหนดมาตรการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการเลี้ยงสุนัข โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมรายปี ตัวละ 15 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับสุนัขที่ทำหมันแล้ว และ 90 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับสุนัขที่ยังไม่ได้ทำหมัน นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีการฝังไมโครชิปให้สุนัขทุกตัว เพื่อช่วยติดตามสุนัขที่หายไปและเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมประชากรสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์เลี้ยงและป้องกันปัญหาสุนัขจรจัด รวมถึงมีการกำหนดจำนวนสุนัขที่สามารถเลี้ยงได้ในบ้านแต่ละประเภท
ล่าสุด สิงคโปร์ได้ประกาศกฎระเบียบใหม่ที่กำหนดให้เจ้าของแมวต้องฝังไมโครชิปและขอใบอนุญาตเพื่อเลี้ยงแมวตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 โดยเจ้าของแมวต้องผ่านหลักสูตรการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงผ่านระบบออนไลน์ก่อนขอใบอนุญาต และจะยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปีแรกให้ หลังจากนั้นจะมีค่าธรรมเนียมรายปี โดยแมวที่ทำหมันแล้ว จะมีค่าธรรมเนียมตัวละ15 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 90 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับแมวที่ยังไม่ได้ทำหมัน การฝังไมโครชิปจะช่วยเจ้าของติดตามแมวที่หายไปได้ง่ายขึ้น โดยมีราคาอยู่ที่ 50-100 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นการควบคุมประชากรแมวและลดปัญหาแมวจรจัด แม้จะมีอุปสรรคสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย แต่มาตรการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์
สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์ ได้แก่ นกค็อกคาตีล (Cockatiel) เต่าน้ำจืด (Terrapin) หนูแฮมสเตอร์ (Hamster) และกระต่าย (Rabbit) ซึ่งสัตว์เหล่านี้มีขนาดเล็กและได้รับอนุญาตให้เลี้ยงได้ในบ้านพักอาศัยต่าง ๆ โดยมีข้อกำหนดที่เหมาะสมกับลักษณะของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท การเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ได้รับการควบคุมตามกฎระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เลี้ยงมีความรับผิดชอบในการดูแลและไม่สร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมหรือชุมชน

แนวโน้มประชากรสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์จนถึงปี 2566 (ค.ศ. 2023)
แหล่งที่มา https://golocad.com/blog/pet-market-in-singapore/

ภาพมูลค่าการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์โดยรวมจนถึงปี 2566 (ค.ศ. 2023)
แหล่งที่มา https://golocad.com/blog/pet-market-in-singapore/
อีคอมเมิร์ซขับเคลื่อนตลาดสัตว์เลี้ยงสิงคโปร์ โอกาสเพิ่มการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ในสิงคโปร์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงใช้จ่ายค่าอาหารสุนัขเฉลี่ยปีละประมาณ 3,670 ดอลลาร์สิงคโปร์ และค่าอาหารแมวปีละประมาณ 2,860 ดอลลาร์สิงคโปร์ การใช้จ่ายสูงในผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงมีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มของ GDP ต่อหัว (GDP per capita) และรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ของเจ้าของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ การแสดงความคิดเห็นออนไลน์และโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินฟลูเอนเซอร์และชุมชนออนไลน์
อีคอมเมิร์ซมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง โดยเมื่อเดือนกันยายน 2567 รายได้จากการขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงออนไลน์ในสิงคโปร์สูงเกือบ 16 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ธุรกิจสัตว์เลี้ยงขยายตัวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ มากขึ้น เช่น Shopee, Lazada, Amazon, TikTok Shop และ Carousell หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ทำให้ร้านค้าออนไลน์ เช่น Kohepets ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงออนไลน์ที่เริ่มต้นจากตลาดระดับพรีเมียมและขยายสู่ตลาดทั่วไป (Mass Market) ในช่วงโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ในปี 2566 ผลิตภัณฑ์ของชำและสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าขายดีที่สุดในแพลตฟอร์ม Lazada สิงคโปร์

ภาพดัชนีอัตราการแปลงยอดขายโดยรวมจาก Lazada สิงคโปร์
แหล่งที่มา https://golocad.com/blog/pet-market-in-singapore/
ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์เติบโตต่อเนื่อง
ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงให้กับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่ (1) อาหารสัตว์ โดยเฉพาะอาหารพรีเมียม อาหารแช่แข็งและอาหารออร์แกนิก (2) ที่นอนสัตว์เลี้ยง (3) เสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริม (4) ผลิตภัณฑ์การดูแลขนสัตว์ (5) ของเล่นเชิงโต้ตอบ ช่วยฝึกสมองและลดความเครียดของสัตว์เลี้ยง (6) อุปกรณ์เทคโนโลยี (7) อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (8) กระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยง (9) ของเล่นและที่นอนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ (10) อุปกรณ์การฝึกสัตว์เลี้ยง
พฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์ในสิงคโปร์
แม้ว่าในสภาวะเงินเฟ้อ เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มจะระมัดระวังการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ก็ยังยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยง เช่น การตรวจสุขภาพสุนัขเพื่อให้สุนัขสามารถเดินทางพร้อมกับเจ้าของได้ โดยร้อยละ 36 เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีส่วนลดและโปรแกรมสะสมแต้ม นอกจากนี้ ทางเลือกการชำระเงินที่สะดวกช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้า เช่น บัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล และบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later)
แนวโน้มที่เติบโตได้ดีในตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงออนไลน์คือ อาหารสัตว์ โดยผู้บริโภคต้องการความชัดเจนของส่วนผสมและแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ขณะเดียวกันอาหารโปรตีนสูงและใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มายั่งยืนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งตลาดสินค้ามือสองก็เติบโตขึ้น เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการลดค่าใช้จ่ายและลดขยะ สินค้ายอดนิยมในตลาดมือสองได้แก่ คอนโดแมว กรงและที่นอนสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ หลายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ยังมีบริการสมัครสมาชิกอาหารสัตว์ ช่วยให้เจ้าของมั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับโภชนาการที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสั่งซื้อซ้ำ
ความท้าทายและโอกาสในตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์
หนึ่งในความท้าทายหลักที่ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญคือการจัดการกับความคาดหวังของลูกค้าในการจัดส่งที่รวดเร็ว และการบริหารคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร้อยละ 52 ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในสิงคโปร์คาดหวังให้สินค้าจัดส่งภายในวันเดียวกับการสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม ตลาดค้าปลีกสินค้าสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์ยังคงมีโอกาสสำหรับผู้เล่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสัตว์ที่มีหลายบริษัทแข่งขันกัน แต่ไม่มีใครครองตลาดมากกว่าร้อยละ 8 และไม่มีผู้ผูกขาดตลาด
สำหรับโอกาสของผู้ประกอบการไทย ในปี 2566 ไทยเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศผู้นำด้านการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของโลก โดยไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 4 มีส่วนแบ่งร้อยละ 8.39 ของมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกรองจากเยอรมนี (ร้อยละ 13.07) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 9.81) และฝรั่งเศส (ร้อยละ 9.77) แม้ว่าตลาดสิงคโปร์จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับคู่ค้าอื่น ๆ ของไทย แต่ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้สัตว์เลี้ยงมีบทบาทในการช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้เจ้าของ ความต้องการสินค้าบริการคุณภาพสูง เช่น อาหารสัตว์พรีเมียม บริการสปา และประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตลาดนี้จึงยังคงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
แหล่งที่มาข้อมูล/ภาพ
- Over 24,000 pet cats licensed since Sept 2024 after new ownership rules kicked in | The Straits Times
- https://www.straitstimes.com/life/vet-talk-busting-cat-myths-from-microchipping-to-vaccinations
- Singapore Pet Market – Insights (2024) | Locad
- Luxury pet care drives booming growth in Singapore’s pet market Singapore News
The Homepage | SG Pet Festival - 8 Pet Cremation Services In Singapore 2025 [+ Prices & Ratings]
- Shopee sellers can sell products regionally without extra cost as part of tie-up with Enterprise Singapore | The Straits Times