ข้อปฏิบัติหลังการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจและการลงลายมือชื่อ

เมื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแล้ว ต้องปฏิบัติตามระเบียบของประเทศสิงคโปร์ ดังนี้

1. บริษัทต้องแต่งตั้งเลขานุการบริษัท (Company secretary) ซึ่งมีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ภายใน 6 เดือนแรกของการดำเนินกิจการ

2. บริษัทจะต้องจัดการประชุมสามัญประจำปี ภายใน 18 เดือนหลังจากตั้งกิจการ

3. การประชุมสามัญประจำปีต้องจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปีปฏิทิน และระยะห่างระหว่างการประชุมแต่ละครั้ง ไม่ควรเกินกว่า 15 เดือน

4. ต้องรายงานผลตอบแทนประจำปี (Annual Return) ต่อนายทะเบียนภายใน 1 เดือนนับจากการประชุมสามัญประจำปี

5. บริษัทมหาชนที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ บัญชีต่างๆ ที่จะรายงานในการประชุมสามัญประจำปีควรปรับปรุงครั้งสุดท้ายไม่เกิน 4 เดือนก่อนการประชุมสามัญประจำปี ส่วนในกรณีของบริษัทรูปแบบอื่นๆ ให้ทำการปรับปรุงครั้งสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือนก่อนการประชุมสามัญประจำปี

6. บริษัทจะต้องแต่งตั้งผู้สอบบัญชีภายใน 3 เดือนหลังจากก่อตั้งบริษัท ผู้สอบบัญชีจะต้องตรวจสอบบัญชีรายปีและส่งผลการตรวจสอบให้กับ ACRA ภายใน 1 เดือนหลังจากการประชุมสามัญประจำปี ยกเว้นในกรณีที่บริษัทมีผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 20 ราย และมีรายรับน้อยว่า 5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในหนึ่งรอบปีการเงิน ไม่ต้องแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและไม่ต้องทำการสอบบัญชี

7. ที่ทำการของบริษัทที่จดทะเบียนไว้จะต้องเปิดและสาธารณชนสามารถเข้าถึงได้โดยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงระหว่างเวลา 9.00 – 17.00 ของวันทำงาน

8. บริษัทต้องพิมพ์เลขทะเบียนนิติบุคคล (Unique Entity Number) ลงบนหัวจดหมาย ใบแจ้งราคา และเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท

การลงลายมือชื่อ         

กิจการเจ้าของคนเดียว (Sole-proprietorship) ห้างหุ้นส่วน (Partnership) ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership) และห้างหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ (Limited Liability Partnership) ผู้ลงลายมือชื่อในการยื่นขอจดทะเบียนธุรกิจต้องเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น

บริษัท (Company) กรรมการทุกคน (Directors) เลขานุการของคณะกรรมการและผู้ถือหุ้น ต้องเป็นผู้มีบัตรประจำตัวประชาชนสิงคโปร์ (Singapore NRIC Holders) หรือผู้ถือใบอนุญาตทำงาน (Employment Pass Holders) หรือ ใบอนุญาตผู้ติดตาม (Dependent Pass Holders) มิฉะนั้น จะต้องแต่งตั้งบริษัทรับดำเนินการจดทะเบียนบริษัทให้ดำเนินการจดทะเบียนธุรกิจแทน