ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ฟื้นตัวต่อเนื่องหลังจากเปิดประเทศ

หลังจากที่สิงคโปร์ทยอยเปิดประเทศจนปัจจุบันเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ภาคการบินของสิงคโปร์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ท่าอากาศยานชางงีรองรับผู้โดยสารรวม 2.56 ล้านคน คิดเป็น 15.6% ของช่วงก่อนโควิด-19 โดยเฉพาะเดือนมีนาคม 2565 มีผู้เดินทางทางอากาศผ่านท่าอากาศยานชางงีสูงถึง 1.14 ล้านคน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปริมาณผู้โดยสารสูงกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ทั้งนี้ ปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินชางงีในเดือนพฤษภาคม 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 40% และใกล้จะบรรลุเป้าหมายที่สิงโปร์ตั้งไว้ว่าปี 2565 จะมีผู้เดินทางทางอากาศครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนโควิด-19 โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดว่าจำนวนผู้เดินทางทางอากาศโดยรวมจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ภายในปี 2566 เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปี

การฟื้นฟูการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 5 ของท่าอากาศยานชางงี

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นาย S. Iswaran รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการค้าสิงคโปร์ กล่าวในการประชุมสุดยอด Changi Aviation Summit ถึงการเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารที่ 5 (T5) ของท่าอากาศยานชางงีอีกครั้ง เพื่อให้พร้อมเปิดดำเนินการในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 2030 ตามเป้าหมาย หลังจากที่ระงับการก่อสร้างชั่วคราวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งในช่วงที่ระงับการก่อสร้าง 2 ปี สิงคโปร์ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการก่อสร้างให้ดียิ่งขึ้นเพิ่มความยืดหยุ่นและความยั่งยืนในการเดินทางหลังภาวะโรคระบาด การฟื้นฟูการก่อสร้างอีกครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสิงคโปร์ว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวต่อจากนี้

นอกจากนี อาคารผู้โดยสารที่ 2 (T2) ซึ่งปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 จะเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 นี้ ซึ่งจะสามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ 28 ล้านคนต่อปี และเป็นอาคารผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารที่ 4 ซึ่งปิดไปตั้งแต่ 2563 ก็จะกลับมาเปิดในเร็ว ๆ นี้ด้วย

การท่องเที่ยวของสิงคโปร์คึกคักต่อเนื่อง

ภาคการท่องเที่ยวคิดเป็น 4% ของ GDP สิงคโปร์ การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (STB) เปิดเผยสถิติว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2565 การท่องเที่ยวของสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวได้ดี มีนักท่องเที่ยวรวมประมาณ 540,430 คน แบ่งเป็นเดือนมกราคม 57,170 คน เดือนกุมภาพันธ์ 67,760 คน เดือนมีนาคม 121,200 คน และเดือนเมษายน 294,300 คน (เพิ่มถึง 2 เท่าจากเดือนมีนาคม) โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวเดินทางมาจาก (1) อินเดีย 95,490 คน (2) อินโดนีเซีย 84,650 คน (3) มาเลเซีย 45,560 คน (4) ออสเตรเลีย 43,500 คน และ (5) ฟิลิปปินส์ 26,670 คน

แหล่งที่มา: STRAITS TIMES GRAPHICS, SINGAPORE TOURISM BOARD

ภาคเอกชนและวิชาการประเมินว่า การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการในสิงคโปร์จะช่วยให้ GDP ของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 2/2565 เติบโตอย่างสมดุลยิ่งขึ้น โดยทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างทั่วถึงในปลายปี 2565 โดยเฉพาะจากการจัดประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และนิทรรศการขนาดใหญ่ (MICE) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของสิงคโปร์ ควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภาคการค้าปลีกของสิงคโปร์ก็ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในประเทศเช่นกัน

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อสังเกต

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งสิงคโปร์ (CAAS) และกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ ร่วมกันจัดการประชุม Changi Aviation Summit เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุม Sands Expo สิงคโปร์ ในหัวข้อหลัก “Readying for Take–off: A Brighter and Cleaner Tomorrow” โดยมีผู้นำด้านการบิน ผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารระดับสูงทั่วโลกมากกว่า 300 คนจาก 45 ประเทศ เข้าร่วมด้วย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ของไทยได้เดินทางเยือนสิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย โดยรองนายกรัฐมนตรีอนุทินฯ ได้กล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายและแผนปฏิบัติการของประเทศไทยว่าด้วยการลดการปล่อยมลพิษในภาคการบิน และรัฐมนตรีศักดิ์สยามฯ ได้พบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์และมาเลเซีย เพื่อกระชับความร่วมมือด้านคมนาคม และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนและภูมิภาคด้วย

ไทยและสิงคโปร์เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมของกันและกัน โดยมีสายการบินใหม่ ๆ ที่ขอเปิดทำการบินระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น สายการบิน ThaiVietJet ซึ่งเริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกจากกรุงเทพฯ มายังสิงคโปร์ เมื่อเดือนเมษายน 2565 จากสถิติของกรมควบคุมโรค ประเทศที่มีผู้เดินทางเข้าไทยมากที่สุดในเดือนเมษายน 2565 คือ สิงคโปร์ จำนวน 45,229 คน (เป็นนักท่องเที่ยว 17,943 คน) รองลงมาคือสหราชอาณาจักร 29,689 คน และอินเดีย 28,599 คน โดยคนในสิงคโปร์ชื่นชอบประเทศไทยและรู้จักวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี ดังนั้น เมื่อไทยยกเลิกมาตรการ Test & Go และเปิดเมืองมากยิ่งขึ้นในเดือนพฤษภาคมแล้ว ก็จะมีเพื่อนมิตรจากสิงคโปร์เดินทางไปท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นอีก


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง