ปัจจุบันฐานเงินเดือนสำหรับผู้ถือบัตร Employment Pass (EP) อยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และ 5,500 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับผู้ที่ทำงานในภาคบริการทางการเงิน โดยปรับครั้งล่าสุดเมื่อปี 2565 ล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์จะปรับขึ้นฐานเงินเดือนสำหรับผู้ถือบัตรทำงานประเภท EP ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 จาก 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 5,600 ดอลลาร์สิงคโปร์ และสำหรับผู้ที่ทำงานในภาคบริการทางการเงิน จะปรับเพิ่มจาก 5,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 6,200 ดอลลาร์สิงคโปร์

การสมัครบัตรทำงานประเภท EP ผู้สมัครจะต้องผ่านการประเมิน 2 ขั้นตอน ได้แก่ การประเมินเงินเดือน และการประเมินคุณสมบัติตามระบบคะแนนของสิงคโปร์ที่เรียกว่า Complementary Assessment Framework หรือ COMPASS ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 และผู้ต่ออายุบัตร EP จะต้องผ่านการประเมิน COMPASS ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ผลกระทบต่อธุรกิจจากการปรับฐานเงินเดือนของผู้ถือบัตร Employment Pass ในสิงคโปร์

ภาคเอกชนในสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวในการพิจารณาจ้างงานระดับผู้บริหารต่างชาติที่ส่วนมากถือบัตรทำงานประเภท EP โดยอาจทำให้ต้องมองหาแรงงานสิงคโปร์เพื่อทดแทนการจ้างงานคนต่างชาติ โดยบริษัทจัดหางาน Michael Page ในสิงคโปร์แสดงความเห็นว่า การเพิ่มฐานเงินเดือนของผู้ถือบัตรทำงานประเภท EP อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ที่มีความสามารถในการแข่งขันต่ำกว่า ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้กำไรจากการทำธุรกิจลดลงและส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเข้าถึงทรัพยากรในการผลิต ในขณะที่ Association of Small and Medium Enterprises (ASME) มองว่า การปรับฐานเงินเดือนผู้ถือบัตรทำงานประเภท EP ให้สูงขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางมากนัก เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วไปจะไม่นิยมจ้างผู้ถือบัตรทำงานประเภท EP อยู่แล้ว เนื่องจากฐานเงินเดือนค่อนข้างสูงเกินกว่าที่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้

ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ

นโยบายดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะเพิ่มความสำคัญและสัดส่วนของการจ้างแรงงานชาวสิงคโปร์ในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ดี สิงคโปร์ยังคงต้องการแรงงานต่างชาติ และยังคงพยายามดึงดูดผู้มีความสามารถที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต การกำหนดเกณฑ์ประเมินคุณสมบัติ และการประเมินคะแนน COMPASS ของผู้สมัครบัตรทำงานประเภท EP ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้บริษัทต้องจ้างงานชาวสิงคโปร์ในสัดส่วนที่เหมาะสม รวมทั้งไม่ให้มีชนชาติใดชนชาติหนึ่งที่มากเกินไปในบริษัท เพื่อรักษาสมดุลของความหลากหลายทางเชื้อชาติ

ผู้ประกอบการชาวไทยในสิงคโปร์ที่ประสงค์จะจ้างจ้างงานผู้ถือบัตร EP ควรเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ในการจ้างงาน รวมทั้งโควตาการจ้างแรงงานต่างชาติ ตลอดจนศึกษาขั้นตอนการขออนุญาตและต่ออายุบัตรทำงานประเภทต่าง ๆ ให้แก่พนักงานในบริษัทของตน


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง