บริษัท Charge+ สิงคโปร์ตั้งเป้ากระจายจุดชาร์จรถไฟฟ้าห้าประเทศ

โอกาสการสร้างรายได้จากธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

บริษัทให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสิงคโปร์ Charge+ ได้ประกาศแผนการสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้าความเร็วสูงตามทางหลวงและในเมือง 45 แห่ง ซึ่งจะเชื่อมต่อห้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย กัมพูชา และเวียดนาม  จากการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นเดียว โดยเครือข่ายเส้นทางทั้งหมดมีสี่เส้นทาง คิดเป็นระยะทางประมาณ 5,000 กิโลเมตร

บริษัท Charge+ จะเป็นเจ้าของและดำเนินการ 18 สถานีแรก ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2567 และสถานีที่เหลืออีก 27 แห่ง จะเป็นการผสมระหว่างบริษัท Charge+ และบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานผ่านแอพฯ Charge+ เพื่อชำระค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้า ซึ่งแอพฯ สามารถรองรับเงินสกุลต่างๆ และจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์เมื่อมีการเปิดใช้งาน 18 สถานีแรก การชาร์จรถไฟฟ้าจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเครื่องชาร์จส่วนใหญ่จะมีกำลังไฟ120 กิโลวัตต์ เมื่อรถ Tesla Model3 ชาร์จรถด้วยกำลังไฟ 120 กิโลวัตต์ 30 นาที คาดว่าจะใช้งานได้ถึง 250-300 กิโลเมตร ในขณะที่บางเครื่องจะเร็วกว่าด้วยกำลังไฟ 300 กิโลวัตต์

บริษัทให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นได้ดำเนินการให้บริการชาร์จรถไฟฟ้าข้ามพรมแดนระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ในเดือนเมษายน 2565 บริษัทก๊าซสิงคโปร์ City Energy ได้เปิดตัว Go แอพพลิเคชั่นในการตรวจสอบจุดให้บริการชาร์จรถไฟฟ้าข้ามพรมแดนระหว่างสิงคโปร์กับมาเลเซีย โดยในขณะนี้มีจุดชาร์จ 118 จุด มากกว่า 50 แห่ง ในมาเลเซีย และในเดือนมีนาคม 2566 ด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัท Yinson Green Technologies และบริษัทในเครือของกลุ่มบริการจัดการอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ LHN ได้ให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 300 จุด ระหว่างทั้งสองประเทศ

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ

ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทยประเมินว่า มูลค่าตลาดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของไทยอยู่ที่ราว 1.3 พันล้านบาท ในปี 2564 และจะเติบโตเฉลี่ย 44.5% หรือคิดราว 8.2 พันล้านบาท ในปี 2569 ดังนั้น ผู้ประกอบไทย หรือภาคเอกชนสามารถพิจารณาการลงทุนการสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ประกอบกับนโยบายส่งเสริมระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ และการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในประเทศทำให้ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากทั้งในไทยและต่างประเทศ


สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง