ภาคการท่องเที่ยวและบริการของสิงคโปร์คึกคักตอบรับกระแสการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ชูศักยภาพสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางความบันเทิงและคอนเสิร์ตระดับโลกของเอเชีย

ทิศทางของสิงคโปร์กับการพัฒนาเพื่อเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตและความบันเทิงต่าง ๆ โดดเด่นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่สิงคโปร์เปิดประเทศหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิงคโปร์ก็ได้ต้อนรับศิลปินชั้นนำจำนวนมากที่เข้ามาจัดการแสดงอย่างต่อเนื่อง

โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สิงคโปร์ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษกับบรรยากาศของการแย่งชิงบัตรคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของ Taylor Swift นักร้องสาวชื่อดังเจ้าของรางวัลมากมายและวงร็อกระดับโลกอย่าง ColdPlay ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2567 ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศในเอเชียที่ Taylor Swift เลือกเปิดการแสดง นอกเหนือจากญี่ปุ่น ซึ่งเท่ากับว่า สิงคโปร์เป็น “จุดพักเพื่อการแสดงเพียงแห่งเดียว” ของ Taylor Swift ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ด้วย

กระแสของคอนเสิร์ตระดับโลกกระตุ้นภาคท่องเที่ยวและภาคบริการในสิงคโปร์อย่างคึกคัก

ความต้องการบัตรคอนเสิร์ตของ ColdPlay และ Taylor Swift ในสิงคโปร์ล้นหลามจนต้องประกาศเพิ่มรอบ โดย ColdPlay เพิ่มจาก 4 รอบเป็น 6 รอบ และ Taylor Swift เพิ่มจาก 3 รอบเป็น 6 รอบ แฟนเพลงของ Taylor Swift จำนวนมากแห่สมัครบัตรเครดิตของธนาคาร UOB หนึ่งในผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตของอย่างเป็นทางการเพื่อให้มีสิทธิจองบัตรคอนเสิร์ตล่วงหน้า สำหรับการจองบัตรรอบปกติก็มีผู้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิในการจองบัตรคอนเสิร์ตถึงกว่า 22 ล้านคน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมคอนเสิร์ตของทั้งสองศิลปินในช่วงต้นปี 2567 มากกว่า 600,000 คน ทั้งคนสิงคโปร์ ชาวต่างชาติในสิงคโปร์ และชาวต่างชาติจากต่างประเทศ โดยนักเศรษฐศาสตร์ของสิงคโปร์เห็นว่า แฟนเพลงต่างชาติที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตจะเป็นนักท่องเที่ยวชั้นดี และจะใช้จ่ายถึง 300-500 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคนต่อวัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์อย่างมหาศาล

ทั้ง Taylor Swift (The Eras Tour) และ ColdPlay (Music of the Spheres) เพิ่มรอบการแสดงเวิลด์ทัวร์ในสิงคโปร์เป็น 6 รอบ มากที่สุดในเอเชีย บัตรคอนเสิร์ตจำหน่ายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง
แหล่งที่มา: Taylor Swift Website (https://www.taylorswift.com/tour/) ColdPlay Website (https://www.coldplay.com/tour/)

ธุรกิจโรงแรมในสิงคโปร์ก็คึกคักอย่างมาก โรงแรม Marina Bay Sands (MBS) ของสิงคโปร์และแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยว Klook ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ ยังใช้โอกาสนี้จัดโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตของ Taylor Swift พร้อมข้อเสนอห้องพักโรงแรม ด้านแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยว Agoda รายงานว่า การค้นหาที่พักในสิงคโปร์ในช่วงคอนเสิร์ตของ Taylor Swift เพิ่มขึ้นถึง 160 เท่า ส่วนใหญ่เป็นการค้นหาและการจองจากในภูมิภาค SEA เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย รวมถึงจากออสเตรเลีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และฮ่องกง ในส่วนของบริษัท Accor ผู้บริหารโรงแรมกว่า 30 แห่งในสิงคโปร์ รายงานว่า ความต้องการห้องพักสูงขึ้นเป็นปรากฏการณ์ และหลายโรงแรมได้ถูกจองเต็มแล้ว นอกจากนี้ ค่าโดยสารเครื่องบินขาเข้าสิงคโปร์ในช่วงคอนเสิร์ตก็สูงขึ้นเกือบ 4 เท่า

ภาคบริการ ร้านค้าและร้านอาหารของสิงคโปร์ก็เตรียมกลยุทธ์เพื่อตอบกระแสความนิยมของคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน เช่น การขยายเวลาให้บริการ โดยเฉพาะกิจการที่อยู่ใกล้กับสถานที่จัดคอนเสิร์ต การจัดข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าในช่วงก่อนและหลังคอนเสิร์ต และการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้จัดคอนเสิร์ต เป็นต้น

กระแสคอนเสิร์ตในครั้งนี้ยังทำให้เกิดการตื่นตัวของการท่องเที่ยวในรัฐยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซียที่มีพรมแดนทางบกติดกับสิงคโปร์ โดยแฟนเพลงต่างชาติสามารถใช้เป็นที่พักทางเลือกซึ่งมีราคาย่อมเยากว่า และสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้แบบไปเช้า เย็นกลับ โดยสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวของรัฐยะโฮร์บาห์รูจะประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวแก่ชาวต่างชาติที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ เพื่อให้มาท่องเที่ยวต่อในรัฐด้วย

สิงคโปร์กับการมุ่งมั่นเพื่อเป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิงและคอนเสิร์ตระดับโลกของเอเชีย

สิงคโปร์มองอุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิงเป็นภาพใหญ่มากกว่าแค่การแสดงคอนเสิร์ตทั่วไป และเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม MICE (การจัดการประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และนิทรรศการขนาดใหญ่) ที่สิงคโปร์ส่งเสริมจนได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นศูนย์กลางการจัดงาน MICE ของภูมิภาค SEA ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (STB) มีบทบาทอย่างมากในการสร้างความร่วมมือและข้อเสนอที่ดึงดูดให้กับผู้เล่นในอุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งผู้จัดคอนเสิร์ต นักแต่งเพลง และนักร้องระดับโลก เพื่อผลักดันสิงคโปร์ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นด้านศิลปะ ดนตรีและความบันเทิง จนทำให้มีบริษัทด้านดนตรีชั้นนำจำนวนมากจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ อาทิ บริษัท Universal Music

นอกจากนี้ STB ยังร่วมมือกับภาคเอกชนในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงคอนเสิร์ตอย่างแข็งขัน เช่น การจัดการแสดง Sands Live Concert เป็นประจำและเทศกาลดนตรีที่โรงแรม MBS อีกทั้งร่วมมือกับผู้บริหารศูนย์กีฬาแห่งชาติ (Singapore Sport Hub) ในการสร้างประสบการณ์แบบ“เฉพาะที่สิงคโปร์เท่านั้น” หรือ “Only-in-Singapore” อาทิ คอนเสิร์ต The Eras Tour ของ Taylor Swift ในครั้งนี้ และตั้งเป้าขยายกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งด้านกีฬาและไลฟ์สไตล์ด้วย เพื่อให้สิงคโปร์กลายเป็น “ศูนย์รวมความบันเทิงของ SEA อย่างเต็มรูปแบบ”

สิงคโปร์มีความพร้อมด้านสถานที่จัดการแสดงที่ได้มาตรฐานสากล เพียบพร้อมด้วยโปรดักชันที่ทันสมัย ทำเลใจกลางเมืองหลายแห่ง เช่น สนามกีฬาแห่งชาติ (National Stadium) ที่มีความจุถึง 55,000 คน โรงละครของ MBS โรงละคร Victoria Theatre & Concert Hall โรงละคร Esplanade และ The Star Theatre ทำให้สามารถรองรับการแสดงหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก และดำเนินนโยบายเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติอยู่เสมอ ส่งผลให้สิงคโปร์สามารถจัดการแสดงไม่เพียงเฉพาะตลาดเพลงยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ละครเวทีบรอดเวย์ ดนตรีออร์เคสตรา คอนเสิร์ตแบบเฉพาะกลุ่ม ศิลปะและการแสดงอื่น ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายและขยายตลาดบันเทิงของประเทศ

สนามกีฬาแห่งชาติ Singapore National Stadium ความจุมากถึง 55,000 คน หนึ่งในสถานที่จัดคอนเสิร์ตระดับโลกของสิงคโปร์ที่ทันสมัย (ในรูป: คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ Born Pink ของวง BlackPink เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา)
แหล่งที่มา: Singapore Sports Hub Facebook (https://www.facebook.com/photo/?fbid=6228710487195067&set=pb.100064895551583.-2207520000.)
สิงคโปร์เป็นจุดพักเพียงที่เดียวใน SEA สำหรับการแสดงละครเวทีบรอดเวย์เรื่อง Frozen ของ Disney ที่ Sands Theatre เมื่อต้นปี 2566
แหล่งที่มา: Disney FROZEN (https://frozenthemusical.com/about/)

สิงคโปร์ยังพัฒนาความเชื่อมโยงทางอากาศอย่างดีเยี่ยมและต่อเนื่อง ปัจจุบันสนามบินชางงีมีอาคารผู้โดยสารทั้งหมด 4 อาคาร และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารที่ 5 มีการคมนาคมขนส่งในเมืองที่สะดวกและครอบคลุม ส่งเสริมสถานะของสิงคโปร์ในการเป็นประตูสู่ SEA นอกเหนือจากข้อได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง การเมืองมีเสถียรภาพ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันการก่อการร้ายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งมีสภาพแวดล้อมด้านการทำธุรกิจที่ดีเป็นอันดับต้นของโลก รวมถึงมาตรฐานการจัดงานใหญ่ที่เป็นประจักษ์ ทำให้ผู้จัดงานระดับโลกมีความเชื่อมั่นและเลือกที่จะจัดงานในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ว่าเป็นแหล่งการจัดงานแสดงที่ดีของเอเชีย

นอกจากนี้ ภาครัฐของสิงคโปร์ยังมีแผนที่จะสนับสนุนการศึกษาด้านดนตรีเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีท้องถิ่นควบคู่กันไป เพื่อให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายที่น่าดึงดูดใจสำหรับศิลปินต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนและสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น

ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ

อุตสาหกรรมคอนเสิร์ตของไทยกำลังเติบโตและฟื้นตัวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นกัน โดยมีคอนเสิร์ตและงานเทศกาลดนตรีทั้งของไทยและต่างประเทศที่รอแสดงในปีนี้และปีหน้าเป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสดนตรี K-POP อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้ผู้จัดระดับโลกเข้ามาลงทุนในไทยเป็นอันดับต้น นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคงทางการเมืองและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วไปแล้ว การส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานผู้จัดงานและการอำนวยความสะดวก ปลอดภัยให้แก่ทีมงานศิลปินและต้นสังกัด ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดคอนเสิร์ตต่างชาติและเพิ่มศักยภาพการจัดงานของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐควรสนับสนุนการศึกษาด้านดนตรี และเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อสร้างข้อเสนอที่จูงใจผู้จัดงาน พัฒนาความเชื่อมโยงในการเดินทางไปสถานที่จัดการแสดงให้สะดวกสบาย รวมถึงการปรับปรุงสถานที่จัดการแสดงให้ทันสมัย เน้นสร้างความแปลกใหม่และแตกต่าง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุน

ทั้งนี้ ไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายมากกว่าสิงคโปร์ จึงน่าจะดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาในประเทศจำนวนมาก ดังนั้น การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัดคอนเสิร์ตระดับโลกจะช่วยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง ท่องเที่ยว และบริการเพิ่มเติม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท้องถิ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ ๆ ได้อีกด้วย


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง