จากความพยายามในการผลักดันเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมด้านบันเทิงและการแสดงของศิลปินระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์เป็นประเทศหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเลือกให้เปิดการแสดงคอนเสิร์ต Eras Tour 2024 ของ Taylor Swift เป็นจำนวน 6 รอบ ตั้งแต่วันที่ 2 – 9 มีนาคม 2567 ตั๋วจำนวน 300,000 ที่นั่ง จำหน่ายหมดภายใน 8 ชั่วโมง สามารถกระตุ้นให้มีการเดินทางเข้ามายังสิงคโปร์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสิงคโปร์ได้รับประโยชน์

ผลตอบแทนที่สิงคโปร์จะได้รับจาก concert tourism

Toh Si Ying นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงิน Nomura ประมาณการว่าคอนเสิร์ตของ Taylor Swift และวง Coldplay ที่จัดในสิงคโปร์ในช่วงต้นปี 2567 จะช่วยเพิ่ม GDP ในช่วงไตรมาสแรกของสิงคโปร์ถึง 0.25% โดยคาดว่าการแสดงคอนเสิร์ตทั้ง 6 รอบของ Taylor Swift จะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นมูลค่ากว่า 350-500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของหนังสือพิมพ์ Wall Street ประเมินว่าการใช้จ่ายในการเดินทางเข้าชมคอนเสิร์ต Taylor Swift ต่อคนคิดเป็นเงินจำนวน 1,385 ดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนเว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่าง Trip.com ระบุว่าช่วงเวลาการจัดคอนเสิร์ตของ Taylor Swift มียอดการจองเที่ยวบินเข้าสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 186% ยอดการจองที่พักเพิ่มขึ้น 462% และยอดการจองตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นถึง 2,373% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการจัดแสดงคอนเสิร์ตระดับโลกคือการบริการ อาหารและเครื่องดื่ม

ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆว่ารัฐบาลสิงคโปร์ได้เสนอเงินอุดหนุนคอนเสิร์ต Taylor Swift ถึง 4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อกำหนดเงื่อนไขให้สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้จัดคอนเสิร์ต Eras Tour การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (STB) ได้เปิดเผยว่ามีการให้เงินอุดหนุนการจัดคอนเสิร์ตจริง แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนตัวเลขหรือรายละเอียดของข้อตกลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตั๋วคอนเสิร์ตที่จำหน่ายหมดแล้วทั้งสิ้น 300,000 ใบ มาพร้อมกับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้ามายังสิงคโปร์ คอนเสิร์ตครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะสร้างผลประโยชน์ให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการบริการ การโรงแรม ค้าปลีก ท่องเที่ยว และร้านอาหาร เช่นเดียวกันกับเมืองอื่น ๆ ที่ได้มีโอกาสจัดคอนเสิร์ตของ Taylor Swift เช่น โตเกียว 4 รอบ ตั๋วจำนวน 220,000 ใบ ทำรายได้ต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นถึง 306 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และคอนเสิร์ต 7 รอบที่ออสเตรเลีย โดยจัด 3 รอบที่เมลเบิร์น และ 4 รอบที่ซิดนีย์ สร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจของออสเตรเลียประมาณ 193 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

นาย Edwin Tong รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมชุมชนและเยาวชนของสิงคโปร์ชี้แจงข้อซักถามในการประชุมรัฐสภาสิงคโปร์เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 ว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่คาดว่าสิงคโปร์จะได้รับนั้นมีนัยสำคัญและเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าเงินอุดหนุนในการจัดคอนเสิร์ตนี้ นอกจากผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่สิงคโปร์จะได้รับแล้ว การจัดคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่าง Taylor Swift จะทำให้สิงคโปร์เข้าใกล้การเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถจัดการแสดงงานศิลปะและดนตรีได้หลากหลายรูปแบบ

ข้อสังเกต

การจัดคอนเสิร์ต Taylor Swift ที่สิงคโปร์ อาจมิได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายด้วยการมอบเงินอุดหนุนแก่ผู้จัดแสดงคอนเสิร์ตเท่านั้น แต่น่าจะเป็นผลจากการมองการณ์ไกล การวางแผนระยะยาว และความทุ่มเทที่จะสร้างข้อตกลงและเงื่อนไขที่ดึงดูดศิลปินต่าง ๆ โดยต้นปี 2566 นาย Edwin Tong รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ชุมชนและเยาวชนของสิงคโปร์และผู้แทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปยังนครลอสแอนเจลิสเพื่อพบปะกับผู้จัดคอนเสิร์ตหลายราย รวมทั้งได้พบกับตัวแทนของ Taylor Swift โดยสามารถบรรลุข้อตกลงและลงนามสัญญาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ก่อนที่จะประกาศกำหนดการจัด Eras Tour ในเดือนมิถุนายน 2566

ปัจจัยของความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จาก concert tourism จำเป็นต้องมองในภาพรวมและวางแผนล่วงหน้าเพื่อสร้างโอกาสและความเชื่อมั่นให้กับผู้จัดคอนเสิร์ตและศิลปิน โดยนอกเหนือจากความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานที่จัดแสดง ที่พัก ระบบขนส่งมวลชนที่สะดวก รวดเร็วและพร้อมรองรับผู้ชมจากประเทศต่าง ๆ แล้ว การอำนวยความสะดวกและการดูแลความปลอดภัยแก่ศิลปินและทีมงาน รวมถึงการบริหารจัดการผู้ชมก่อนและหลังคอนเสิร์ตที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ที่มา: https://www.straitstimes.com/singapore/beyond-a-swift-lift-to-singapore-s-q1-economy-taylor-s-concerts-can-deliver-long-term-dividends


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง