สตาร์ทอัพฟินเทค (Fintech) ในสิงคโปร์เพื่อต่อยอดสู่ตลาดนานาชาติ

จากการวิจัยการลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยบริษัท Tracxn พบว่า มูลค่าการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไตรมาสแรกของปี 2566 มีมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 69% จากปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการที่ทำให้กลุ่มธุรกิจ Fintech มีโอกาสเติบโตในภูมิภาคนี้ในระยะยาวเช่น มีประชากรผู้บริโภคจำนวนมาก ประชากรส่วนใหญ่ยังมีอายุน้อย ไม่มีบัญชีธนาคาร และยังพึ่งพาระบบการเงินนอกระบบ ซึ่งทำให้กลุ่ม Fintech มีโอกาสสำคัญในการนำเสนอทางออกเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกสิงคโปร์สามารถดึงดูดเงินทุนสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีได้มากที่สุดในภูมิภาคนี้ (934 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) กลุ่มธุรกิจที่ได้รับเงินทุนสูงที่สุดในไตรมาสแรก ได้แก่ ธุรกิจการเงินดิจิทัล การประกันทางดิจิทัล และธุรกิจยานยนต์ดิจิทัล เมื่อธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Fintech ได้ขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มที่แล้ว การขยายธุรกิจออกไปนอกภูมิภาคเป็นหัวใจสำคัญในการรักษากำไรและความมั่นคงในระยะยาว รวมถึงยังช่วยเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ในอนาคต

เงินทุนสตาร์ทอัพฟินเทคของสิงคโปร์
แหล่งที่มา: The Business Times (https://www.businesstimes.com.sg/startups-tech/startups/singapore-fintech-funding-dives-41-3-year-low-expected-start-recovering-next)

หนึ่งในทางเลือกของบริษัท Fintech ในสิงคโปร์ในการขยายธุรกิจและเพิ่มสถานะการเป็นผู้นำทางการเงินในระดับโลกคือ การขยายไปยังตลาดนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสหรัฐฯ ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้เข้าถึงกลู่มลูกค้าระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก สำหรับตลาดยุโรปจะเพิ่มโอกาสในการพัฒนาด้านนวัตกรรม เนื่องจากความหลากหลายของตลาดของประเทศในภูมิภาค 

เริ่มต้นสร้างความแข็งแกร่งที่สิงคโปร์และเตรียมพร้อมขยายธุรกิจ (Scalability)

ก่อนที่จะเริ่มขยายตลาดไปสู่ระดับนานาชาติ ธุรกิจสตาร์ตอัพด้าน Fintech ในสิงคโปร์ควรใช้ประโยชน์จากการขยายตัวในประเทศและในภูมิภาคอย่างเต็มที่ โดยใช้ประโยชน์จากการที่สิงคโปร์มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูง ประชากรมีความรู้ด้านเทคโนโลยี และมีการกำกับดูแลจากรัฐบาลอย่างเข้มงวด ด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและประชากรที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ การเริ่มต้นที่สิงคโปร์จะช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับความซับซ้อนของการขยายตัวไปยังต่างประเทศในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มขยายตลาดสู่ตะวันตก โอกาสมากมายในสหรัฐอเมริกา

ด้วยประชากรของสหรัฐฯ กว่า 330 ล้านคน และระบบนิเวศ Fintech ที่เติบโตและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สตาร์ทอัพด้านนี้สามารถเพิ่มขนาดธุรกิจจากกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ระดับโลก รวมทั้งโอกาสในการเข้าถึงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสให้กับสตาร์ทอัพในการพัฒนาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประสบการณ์จากการแก้ไขปัญหาที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจสตาร์ทอัพมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเวที Fintech ระดับโลกได้

เดินหน้าสู่ยุโรป ภูมิภาคที่หลากหลายและความต้องการโซลูชั่น Fintech ที่เฉพาะเจาะจง

ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ภาษาและเศรษฐกิจ ความหลากหลายนี้ให้โอกาสที่ไม่เหมือนใครสำหรับธุรกิจ Fintech ในการปรับแต่งโซลูชั่นและบริการให้เข้ากับความต้องการในภูมิภาค เช่น ธุรกิจสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนสามารถแก้ไขความท้าทายที่เกิดจาก Single Euro Payments Area (SEPA) ของสหภาพยุโรป การแก้ไขปัญหาที่สำคัญในภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถต่อยอดฐานชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในเวที Fintech ระดับโลกได้

เรียนรู้จากบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการขยายไปนานาชาติ

ตัวอย่างบริษัทในสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปสู่ระดับนานาชาติ เช่น บริษัท Nium ซึ่งทำธุรกิจด้านการชำระเงินทางธุรกิจ (business payment) Nium เล็งเห็นโอกาสในสหรัฐฯ จึงได้เปิดบริษัทที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นศูนย์รวมทางการเงินของชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ โดยช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในสหรัฐฯ ได้มาก ในปัจจุบันฐานลูกค้าในสหรัฐฯของ Nium มีมากกว่า 60% ของลูกค้าทั้งหมด อีกตัวอย่างคือบริษัท Instarem ก่อตั้งขึ้นในสิงคโปร์เมื่อปี 2557 เพื่อให้บริการทางด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยเทคโนโลยีที่รวดเร็วและประหยัดกว่าการชำระเงินผ่านธนาคาร Instarem เลือกกลยุทธ์ที่จะขยายตลาดในยุโรปโดยเริ่มต้นจากสหราชอาณาจักรและประเทศในยุโรปที่มีจำนวนคนต่างด้าวที่สูง มีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากและมีธุรกิจที่มีกิจการระดับโลก ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับตลาดสิงคโปร์ แต่มีจำนวนกลุ่มเป้าหมายสูงกว่ามาก ทำให้โซลูชั่นของ Instarem มีผลตอบรับที่ดีเนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี

สตาร์ทอัพไทยและการเลือกกลยุทธ์ในการขยายตลาดให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์

ศักยภาพระยะยาวของธุรกิจ FinTech ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงสดใส ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้าน FinTech หรือขนาดของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยสำหรับสตาร์ทอัพไทยที่วางแผนจะขยายตัวสู่ระดับนานาชาติ อาจศึกษาการขยายตลาดจากบริษัท FinTech ต่าง ๆ ในสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูง การสนับสนุนจากรัฐบาล รวมถึงโอกาสในการสร้างพันธมิตรกับบริษัทระดับโลก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบริษัทที่ต้องการขยายตลาดและมีเสถียรภาพในระดับนานาชาติ 


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง