สิงคโปร์รุกแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวและเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยเทคโนโลยี

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างคึกคักทั่วโลก โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนติดต่อกันเป็นเดือนที่สองแล้ว ถึงแม้จะยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 1.7 ล้านคนต่อเดือนก็ตาม แต่จำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวของสิงคโปร์จึงน่าจะฟื้นตัวได้เท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 ภายในปี 2567 นี้

สิ่งที่เป็นจุดขายสำคัญของการท่องเที่ยวสิงคโปร์คือกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความโดดเด่นและประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นหลังจากทุกประเทศได้เปิดประเทศแล้ว โดยสิงคโปร์ตั้งเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวที่เน้นดิจิทัลและความยั่งยืนตามแผน Singapore Economy 2030 ของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์

ล่าสุด! สิงคโปร์เปิดตัวไกด์นำเที่ยวด้วยเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้มาเยือน

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) ได้เผยตัวอย่าง “ไกด์นำเที่ยวสิงคโปร์” ด้วยเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง หรือ Augmented Reality (AR) ที่พัฒนาด้วยโปรแกรม ARCore Geospatial API ของบริษัท Google  ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่โดยภาพหรือกราฟฟิกในโลกเสมือนจะกลมกลืนไปกับสถานที่จริง โดยใช้กล้องจากมือถือจับภาพสถานที่ผ่านแอปพลิเคชัน Visit Singapore ของ STB ระหว่างเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ในสิงคโปร์ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง STB กับ Google ครั้งนี้ ถือเป็นการใช้โปรแกรม ARCore กับด้านการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคด้วย

การให้บริการมัคคุเทศก์ AR ตามสถานที่ท่องเที่ยวของสิงคโปร์
แหล่งที่มา: Google AR & VR (https://www.youtube.com/watch?v=zFxpXiAkT2k)

การให้บริการมัคคุเทศก์ AR ในช่วงแรกจะเริ่มที่สถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ บริเวณ Merlion Park และโรงละคร Victoria Theatre & Concert Hall โดยมีตัวการ์ตูนสิงโตพ่นน้ำเมอร์ลี (Merli) ของสิงคโปร์เป็นไกด์นำเที่ยวและแนะนำกิจกรรมและอาหารท้องถิ่นที่ชวนให้ลิ้มลองระหว่างทางอีกด้วย ทั้งนี้ STB จะทยอยเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ตามมา โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการไกด์นำเที่ยว AR นี้ได้ภายในสิ้นปี 2566

การให้บริการมัคคุเทศก์ AR แนะนำอาหารท้องถิ่นของสิงคโปร์
แหล่งที่มา: Google AR & VR (https://www.youtube.com/watch?v=zFxpXiAkT2k)

การใช้เทคโนโลยี AI ด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (TravelTech) ในสิงคโปร์

สิงคโปร์มีบริษัทด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (TravelTech) เติบโตตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีบริการที่หลากหลายยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่สนับสนุนด้วย AI เพื่อการทำการตลาดแบบรู้ใจ (personalized tourism) และเพื่อช่วยเพิ่มผลิตภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เช่น บริษัท Vouch เจ้าของแพลตฟอร์มดิจิทัลและแชทบอทเพื่อการต้อนรับ (digital concierge) ให้บริการตอบข้อสงสัยของลูกค้า ช่วยจองห้องพักและรับคำสั่งการบริการในห้องพัก โดยมีโรงแรมชื่อดังหลายแห่งใช้บริการ เช่น โรงแรม Andaz สิงคโปร์และโรงแรม Pan Pacific สิงคโปร์ เป็นต้น และบริษัท Travelstop ที่ให้บริการแก่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวด้วยแพลตฟอร์มที่ออกแบบเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการจองบริการต่าง ๆ การทำรายงานค่าใช้จ่าย และวิเคราะห์การลดรายจ่ายเชิงลึกให้กับลูกค้าที่รับบริการ

ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยี AI ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น ประวัติส่วนตัวและความสนใจของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ถูกใจ ทั้งยังสามารถตัดสินใจและทำหน้าที่ในงาน routine
ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น ระบบยังสามารถวิเคราะห์และช่วยคำนวณราคาที่เหมาะสมที่สุด (pricing optimization) จากการประมวลข้อมูลหลายด้านอย่างทันที (real-time) โดยสามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เทคโนโลยี AI ยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลโดยรอบเพื่อให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว หรือใช้วิเคราะห์สภาพอากาศ และอัตราการเกิดอาชญากรรม อาทิ บริษัท Fooyo ของสิงคโปร์ที่ใช้ AI ช่วยออกแบบตารางการท่องเที่ยวและให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเทียวและงานต่าง ๆ ได้แบบ real-time 

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีสตาร์ทอัพด้าน TravelTech อีกจำนวนมากที่ให้บริการออนไลน์และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เช่น บริษัท BeMyGuest ที่พัฒนาซอฟแวร์เพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจท่องเที่ยวอย่างครบวงจร บริษัท GlobalTix ผู้ให้บริการการจองบัตรเข้าชมงานแสดงหรือกิจกรรมต่าง ๆ และบริษัท Wego แพลตฟอร์มการค้นหาที่ช่วยการสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินหลากหลายประเภท

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ

โดยที่ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่จำนวนมากที่เป็นนิยมของผู้คนทั่วโลก การนำเทคโนโลยี AR มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่แก่นักท่องเที่ยวจะช่วยส่งเสริมการกลับมาของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิม รวมทั้งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย
ซึ่งที่ผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยอาจยังไม่ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาซอฟท์แวร์
หรือนวัตกรรมเชิงการท่องเที่ยวเท่าใดนัก

นอกจากการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว สิงคโปร์ยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยมีกำหนดจะเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุม Global Sustainable Tourism Council (GSTC) เป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 13 – 14 พฤศจิกายน 2567 เพื่อแสดงบทบาทนำในด้านนี้ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การท่องเที่ยวแบบ MICE เดิม (การเป็นเจ้าภาพการประชุมหรือนิทรรศการแสดงสินค้าและบริการขนาดใหญ่) โดยสิงคโปร์พยายามสนับสนุนการดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เช่น โครงการ Tiny House บ้านพักตากอากาศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบนเกาะ Lazarus ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อปี 2565 สิงคโปร์ยังได้เป็นเจ้าภาพจัดงานที่เกี่ยวเนื่องกับความยั่งยืนที่สำคัญอย่างน้อย 6 งาน ซึ่งรวมถึงการประชุม CleanEnviro Summit และการประชุม World Cities Summit และจะเป็นเจ้าภาพจัดงานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างน้อยอีก 5 งานในปี 2566 ดังนั้น ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมของไทยอาจพิจารณาเข้าร่วมงาน MICE ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวเหล่านี้ และศึกษาประสบการณ์ของสิงคโปร์หรือประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย และการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจ ทั้งในด้านการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความยั่งยืนในธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงการลดใช้พลังงาน การลดขยะ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของประชาคมโลกในช่วงต่อจากนี้


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง