ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติสิงคโปร์ (Singapore Police Force) พบการหลอกลวง (scam) ในสิงคโปร์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนและรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นจากเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยการหลอกลวงที่พบได้บ่อยครั้งมักเป็นการโทรศัพท์แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ พบว่ามูลค่าความเสียหายโดยเฉลี่ยสูงสุดต่อกรณีสูงถึง 116,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว รัฐบาลสิงคโปร์ จึงพยายามปรับปรุงแก้ไขกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับประชาชน

การรับมือกับ scam

กระทรวงการสื่อสารและข้อมูล (Ministry of Communications and Information – MCI) ของสิงคโปร์ได้เปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่เพื่อจัดการกับ scam โดยผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถติดต่อเครือข่ายมือถือของท่านเพื่อบล็อกการโทรศัพท์ระหว่างประเทศทั้งหมดได้ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2567 และ MCI กำลังทำงานร่วมกับกูเกิ้ล (Google) เพื่อปรับปรุงมาตรการป้องกันมัลแวร์ (Malware) บนโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการของแอนดรอย์ (Android) เช่น Samsung Oppo เพื่อดูว่าแต่ละอุปกรณ์สามารถป้องกัน scam ได้อย่างไรบ้าง โดยจัดตั้งเป็นคณะทำงานที่มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และดิจิทัลภายในสิงคโปร์ ขณะที่ Infocomm Media Development Authority (IMDA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านสารสนเทศ การสื่อสาร และการพัฒนาสื่อของสิงคโปร์ ก็มีแผนที่จะเปิดให้มีการบล็อก SMS จากเบอร์โทรศัพท์ต่างประเทศในกลางปี 2567 เพื่อป้องกัน scam เช่นกัน  

ตำรวจสิงคโปร์ได้เผยแพร่ข้อมูลลักษณะบทสนทนาของ scam ที่มักแอบอ้างว่าเหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม และหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ โดยมักจะส่งหรือแสดงรูปของเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรเจ้าหน้าที่ เอกสารหรือจดหมายปลอม หรือวิดีโอคอล (Video call) โดยแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้เหยื่อตายใจ รวมทั้งเผยแพร่ข้อแนะนำในการรับมือและป้องกัน scam เพื่อให้สาธารณชนในสิงคโปร์มีความตื่นตัว นอกจากนี้หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสิงคโปร์ (Cyber Security Agency of Singapore – CSA) ได้จัดทำข้อมูลแนะนำแอปพลิเคชันสำหรับติดตั้งในโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันไวรัสและ scam ด้วย

ที่มา: The Straits Times https://www.straitstimes.com/singapore/urgent-calls-from-the-police-or-the-bank-here-s-how-to-know-if-it-s-a-scam

ที่มา: The Straits Times https://www.straitstimes.com/singapore/download-these-antivirus-apps-csa-urges-in-latest-drive-against-cybercrooks

สิงคโปร์เตรียมปรับปรุงแก้ไขกฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ทันสมัย

               กฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Act) ของสิงคโปร์ฉบับปัจจุบันได้เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อควบคุมการกำกับดูแลและบำรุงรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเชื่อมโยงเครือข่ายดิจิทัลมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ประกอบกับแนวโน้มจำนวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อจากการโจมตีทางไซเบอร์ของหน่วยงานรัฐบาลและประชาชนทั่วไปจึงเพิ่มตามไปด้วย

               เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสิงคโปร์ยังคงเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสามารถจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ได้ หน่วยงาน Cyber ​​Security Agency of Singapore (CSA) ของสิงคโปร์ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 เพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปประกอบการพิจารณาแก้ไขกฎหมาย โดยมีเป้าหมายให้กฎหมายฉบับใหม่ (1) สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจที่ขยายตัวในปัจจุบัน เพิ่มความสามารถของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น บริการคลาวด์ (cloud services) รวมถึงให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบนอกสถานที่ได้ (2) ขยายความครอบคลุมให้มากกว่าโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (Critical Information Infrastructure – CII) เพื่อให้สามารถปกป้องระบบคอมพิวเตอร์ที่สำคัญของประเทศ ลดความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สาธารณสุข ความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสิงคโปร์ (3) ตอบสนองต่อความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ลดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

ข้อคิดเห็น/เสนอแนะ

               หน่วยงานรัฐของสิงคโปร์มีการดำเนินการแบบบูรณาการเชิงรุกกับภาคเอกชนในการเปิดรับข้อมูล ผลักดันและร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันความเสียหายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสื่อสารกับประชาชนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างรอบด้าน เพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ของสิงคโปร์สู่ Smart Nation ที่พัฒนาสู่สังคมดิจิทัล (Digital Society) เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) เพิ่มความเชื่อมั่นในระดับภูมิภาคและโลก ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจต่างๆ ของสิงคโปร์ในปัจจุบันล้วนผ่านระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมออนไลน์ ระบบสั่งซื้อวัตถุดิบ สินค้า บริการ การติดต่อกับหน่วยงานรัฐของสิงคโปร์ ผู้ประกอบการจึงควรศึกษา วางแผน อัปเดตข้อมูล และตระหนักถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อป้องกันและลดความเสียหายจากภัยคุกคามและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าต่อไป


ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC)
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์


ข้อมูลอ้างอิง